เริ่มต้นการปลูกผักสวนครัวไว้กินเองที่บ้าน มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
เริ่มต้นการปลูกผักสวนครัวไว้กินเองที่บ้าน มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
เมื่อเวลาเปลี่ยนไปของกินของใช้ก็เริ่มจะแพงขึ้น
โดยเฉพาะพืชผักที่มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาจากราคาเดิมตลอดทุกปี
ยิงสดสะอาดเท่าไหร่ก็ยิ่งมีราคาสูงเท่านั้น
สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อแก้ไขปัญหานี้ก็คือ
"การปลูกผักสวนครัว" ไว้กินเอง นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว
ยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย ลองมาดู 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ฉบับมือใหม่
สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นปลูกผักสวนครัวไว้กินเองที่บ้าน
มีขั้นตอนอย่างไรบ้างดูได้ที่นี่
1. เลือกขนาดแปลงปลูกผักสวนครัวที่เหมาะสม
สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านเดี่ยว
หรือซื้อทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม แล้วมีพื้นที่เหลือไม่ว่าจะเป็นฝั่งหน้าบ้าน
ข้างบ้าน หรือหลังบ้าน แล้วตกลงปลงใจจะปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง
อันดับแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ
การเลือกขนาดแปลงหรือมองหาพื้นที่ในบ้านเพื่อปลูกผักสวนครัว
หากไม่เคยปลูกอะไรมาก่อนแนะนำให้เริ่มต้นด้วยแปลงปลูกผักสวนครัวขนาดเล็ก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์การปลูกผักสวนครัวมาก่อน
เพราะการปลูกผักสวนครัวนั้นจำเป็นต้องดูแลอย่างดี
และจะปลูกผักให้งอกงามจนนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ ขนาดของแปลงปลูกผักสวนครัวที่แนะนำคือ
เริ่มต้นประมาณ 16x10 ฟุต
2.
เลือกตำแหน่งแปลงปลูกผักสวนครัวควรให้เหมาะสม
สิ่งต่อมาที่ควรคำนึงถึงคือการเลือกตำแหน่งของแปลงปลูกผักสวนครัว ควรเลือกปลูกในสถานที่ที่มีแสงแดดส่องมาถึงแปลงผักตลอดทั้งวัน โดยปกติผักสวนครัวส่วนใหญ่ต้องการแสงแดดในการเจริญเติบโตกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งช่วยให้ผักสวนครัวเติบโตได้ดี ให้รสชาติที่อร่อยการปลูกผัก เคล็ดไม่ลับให้ผักสด สวยงามแต่ไร้สารเคมี
ตำแหน่งแปลงปลูกผักสวนครัวที่แนะนำคือ
หลังบ้านหรือหน้าบ้าน
ไม่แนะนำให้ตั้งอยู่บริเวณข้างบ้านเพราะจะมีตัวบ้านและรั้วบ้านเป็นตัวกันแดด
ที่สำคัญแปลงผักควรตั้งอยู่ในแนวที่หันไปทางทิศเหนือและใต้
ซึ่งเป็นทิศที่มีแสงแดดส่องผ่านทั้งวัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่
3. การเตรียมดินและการเลือกปลูกผักสวนครัว
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการปลูกผักสวนครัวก็คือ
การเตรียมดิน
ซึ่งผักสวนครัวส่วนใหญ่นั้นจะเป็นพืชที่ต้องปลูกในดินที่ดีมีความร่วนซุย
รากของดินสามารถทะลุผ่านดินได้ง่าย
ดังนั้นดินที่ใช้ในการปลูกผักสวนครัวควรมีการเติมปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับดิน
รวมไปถึงแปลงผักที่มีการระบายน้ำที่เหมาะสม
เพื่อให้มั่นใจว่าแปลงผักสวนครัวนั้นจะไม่สะสมน้ำไว้ในดินเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีฝนตกชุกแล้ว
นอกจากจะต้องมีการวางแผนเรื่องดินให้ดีแล้วยังต้องคิดถึงเรื่องพันธุ์ของพืชผักสวนครัวด้วย
โดยขอแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากได้พันธุ์พืชที่สามารถปลูกได้ง่าย ได้แก่ กะเพรา
คะน้า บวบ โหระพา มะระ ตะไคร้ พริก มะเขือเทศ และตำลึง ยกตัวอย่างการปลูกดังนี้
– กะเพรา
โรยเมล็ดทิ้งไว้ 7-10 วัน ในดินร่วนซุย
และระบายน้ำได้ดี หากโตเบียดกันแน่นเกินไปควรถอนแยกเพื่อให้ต้นโตเป็นพุ่ม
และควรเด็ดใบมาปรุงอาหารบ่อย ๆ เพื่อให้ต้นไม่ผลิดอก ติดเมล็ด
หรือต้นโทรมเร็วเกินไป
– พริก
หยอดเมล็ดลงในดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี
ประมาณ 7 วัน ต้นกล้าจะเริ่มงอก แล้วจึงแยกนำมาปลูกในภาชนะ หรือแปลง
ควรเว้นระยะห่างของต้นประมาณ 50-60 เซนติเมตร ข้อควรระวังคืออย่าให้ดินแฉะเกินไป
เพราะต้นอาจตายได้
– ตะไคร้
นำต้นที่ตัดใบปักชำในดินร่วนซุย โดยปลูกในดินลึกไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร ในพื้นที่ที่มีแสงแดดครึ่งวัน หลังจากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะเริ่มแตกรากผลิใบ
ติดตามข่าวสารอัพเดตล่าสุดได้ที่:
โปรโมชั่น pg slot รวมโปรสล็อต PG โปรโมชั่นดีๆสุดพิเศษและก็ร้อนแรงมาเสนอแนะสำหรับคุณ สำหรับสาวกสล็อตตัวจริงต้องห้ามพลาดกับโปรโมชั่นที่พวกเราเตรียมความพร้อมมายกให้คุณทุกวัน
ตอบลบ